แฟรนไชส์ (Franchise) รูปแบบการทำธุรกิจรูปแบบใหม่ที่มีความน่าสนใจในปี 2024
แฟรนไชส์คืออะไร
สำหรับการทำธุรกิจนั้น ทุกคนต่างทราบว่ามีรูปแบบและประเภทที่มากมายในปัจจุบัน และต่างรูปแบบก็มีความโดดเด่นในแบบของตนเอง และสำหรับบทความนี้ ผู้เขียนจะขอนำเสนอเกี่ยวกับ การทำธุรกิจ แฟรนไชส์ ซึ่งถือว่ามีความสำคัญ มีความโดดเด่น และยังเป็นประเภทการทำธุรกิจที่สามารถสร้างเม็ดเงิน รายได้ และสร้างฐานลูกค้าได้อย่างสะดวกสบาย สำหรับรายละเอียดข้อมูลว่า แฟรนไชส์คืออะไรนั้น จะเป็นอย่างไรบ้าง สามารถทราบและอ่านรายละเอียดต่างๆว่าแฟรนไชส์น่าลงทุนอย่างไรจากข้อมูลด้านล่างนี้ได้เลย
แฟรนไชส์ (Franchise) คืออะไร
เบื้องต้นก่อนที่ผู้อ่านจะไปถึงในส่วนของว่าแฟรนไชส์คืออะไร ทางผู้เขียนขอนำเสนอเกร็ดความรู้และที่มากของแฟรนไชส์เสียก่อน โดยเดิมนั้น คำว่า Franchise มีรากศัพท์มาจากภาษาฝรั่งเศส คือ "Franchir" แปลว่า "สิทธิพิเศษ" ซึ่งนั่นจึงเป็นที่มาว่า แฟรนไชส์คือระบบการทำธุรกิจที่มีระบบของสาขา โดยเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความสนใจในการดำเนินเปิดกิจการใดๆ สามารถติดต่อเข้ามา สอบถามรายละเอียดและซื้อ ชื่อในแบรนด์นั้นๆ
รวมถึงเครื่องมือการทำธุรกิจครบวงจร นำไปเปิดธุรกิจของตนเอง โดยยังคงชื่อแบรนด์และลักษณะทางการตลาดที่คงเดิมกับผู้ขายสิทธิ์ และได้รับสิทธิพิเศษต่างๆ เหมือนเป็นการดูแล และให้บริการการปรึกษาและช่วยเหลือตลอดการดำเนินธุรกิจ โดยที่ทางผู้เขียนได้กล่าวมาทั้งหมดนี้ เป็นประโยคจำกัดความที่ดีที่สุดสำหรับคำถามที่ว่า แฟรนไชส์คืออะไร ?
ประโยชน์ของแฟรนไชส์
แฟรนไชส์รูปแบบธุรกิจที่น่าสนใจ
เมื่อได้ทราบถึงความหมายของแฟรนไชส์แล้วนั้น คำถามต่อมาก็คือ แล้วประโยชน์ของแฟรนไชส์คืออะไร ? ทางผู้เขียนขอยกตัวอย่าง ธุรกิจ แฟรนไชส์เครื่องซักผ้า ซึ่งอาจจะฟังดูว่าจะจัดการและบริหารธุรกิจยาก เนื่องด้วย ผู้ลงทุนหากไม่มีแฟรนไชส์ให้คำปรึกษา อาจจะไม่ทราบว่าจะเริ่มต้นอย่างไรบ้าง แต่หากดำเนินธุรกิจด้วยการซื้อแฟรนไชส์ หากได้พบกับเจ้าของสิทธิ์แฟรนไชส์เครื่องซักผ้าที่ให้ความสำคัญและมีความโดดเด่น ทางผู้ลงทุนจะได้รับคำปรึกษา การแนะนำตั้งแต่ก่อนเปิดแฟรนไชส์เครื่องซักผ้า
ไปถึงจนดำเนินธุรกิจที่จะได้รับ Service การบำรุงรักษาเครื่อง การซ่อมบำรุง การจัดระบบต่างๆทั้งในเรื่องความปลอดภัยและการบริหารงานผ่านเทคโนโลยี ส่งผลให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างสะดวกสบาย ลดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งจากส่วนนี้ทางผู้อ่านก็จะเข้าใจได้มากขึ้นว่า ประโยชน์ของแฟรนไชส์คืออะไร
รูปแบบของการทำแฟรนไชส์
รูปแบบของการทำแฟรนไชส์นั้น คือลักษณะการทำธุรกิจที่มีความเสี่ยงต่ำ เพราะมีเจ้าของผู้ถือสิทธิ์ที่มีความเชี่ยวชาญในการวางแผนธุรกิจนั้นวางแผนให้กับผู้ลงทุน และส่วนสำคัญต่อไปก็คือ ผู้ที่ลงทุนจะต้องเข้าใจถึงกฎการซื้อสิทธิ์และนำไปดำเนินกิจการต่อ
โดยในการทำแฟรนไชส์นั้น มักมีประเภทการให้บริการที่แตกต่างกันไป ซึ่งสามารถยกตัวอย่างได้ใหญ่ๆสองรูปแบบดังส่วนข้างล่างนี้ เพื่อเป็นการขยายภาพให้เห็นถึงรูปแบบการทำแฟรนไชส์
1. แฟรนไชส์ที่เน้นให้บริการทางสินค้า
เช่น การเปิดร้านแฟรนไชส์ร้านอาหารที่มักจะพบเห็นได้ทั่วไป ซึ่งผู้ลงทุนจะต้องศึกษาวัตถุดิบ และควบคุมการปรุงอาหารต่างๆให้เหมือนกับทุกสาขาอื่นๆ คงคุณภาพไว้ตามแบรนด์แฟรนไชส์
2. แฟรนไชส์รูปแบบการเน้นให้การบริการ
จะสามารถยกตัวอย่างเป็นแฟรนไชส์ธุรกิจเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ โดยผู้ซื้อสิทธิ์นั้นจะได้รับรูปแบบการทำธุรกิจ และรับเครื่องมือต่างๆที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นเครื่องซักผ้า แอพพลิเคชั่น (หากมี) เพื่อนำไปบริหารธุรกิจได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น ซึ่งในส่วนนี้สามารถยกเป็นตัวอย่างเพื่อให้เข้าใจได้ว่า รูปแบบของธุรกิจในการทำแฟรนไชส์คืออะไรบ้าง
ประเภทของแฟรนไชส์สามารถแบ่งได้เป็น 3 รูปแบบดังต่อไปนี้
Product and Brand Franchise ในการทำธุรกิจแฟรนไชส์อย่างแรกนี้ ผู้ถือสิทธิ์หรือ Franchisor นั้น จะให้ความรู้และข้อมูลเบื้องต้นของสินค้าและบริการ โดยจะให้สิทธิ์และผลิตภัณฑ์แก่ผู้ลงทุนนำไปประกอบธุรกิจอย่างอิสระ โดยหลายๆท่านอาจจะสงสัยว่า ตัวอย่างของการลงทุนแฟรนไชส์คืออะไรบ้าง
สำหรับประเภทนี้ ทางผู้เขียนขอยกตัวอย่างร้านอาหารหรือร้านบุฟเฟต์บางแบรนด์ ที่จะมีสาขาและชื่อแฟรนไชส์อยู่หลากหลายย่าน แต่ในต่างสาขาจะมีเมนูอาหารหรือลิสต์ของบริการบางอย่างที่แตกต่างกันไป แล้วแต่ผู้ดำเนินธุรกิจสาขานั้นๆจะมีนโยบายต่อยอดอย่างไรบ้าง โดยยังคงคุณภาพและลักษณะของแบรนด์ไว้ได้
Business Format Franchise สำหรับแฟรนไชส์ประเภทนี้ ผู้ให้บริการเจ้าของสิทธิ์นั้นจะสร้างรูปแบบการทำธุรกิจที่มีความชัดเจน มีกฎระเบียบที่จะต้องทำข้อตกลงกับทางผู้ลงทุนอย่างชัดเจน โดยแบบแผนการทำธุรกิจต่างๆนั้น ถูกวิจัยและวิเคราะห์มาแล้วว่าจะส่งผลดี และสร้างการเติบโตที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งผู้ลงทุนจะต้องศึกษาและรักษาไว้ซึ่งกฎต่างๆระหว่างผู้ถือสิทธิ์เจ้าของและผู้ลงทุน อันจะสร้างการเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Conversion Franchise สำหรับการทำธุรกิจแฟรนไชส์ประเภทนี้นั้น จะเน้นเป็นการสร้างความสนใจในการลงทุนร่วมกัน โดยผู้ลงทุนอาจจะมีธุรกิจบางอย่างอยู่แล้ว ซึ่งสามารถนำเข้ามาผนวกหรือเปิดบริการร้านเสริมร่วมกับผู้เป็นเจ้าของแฟรนไชส์ เพื่อสร้างความสนใจในการทำธุรกิจและสามารถสร้างผลประโยชน์ร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยหลายๆท่านอาจจะสงสัยในความแตกต่างของแฟรนไชส์คืออะไร ? ระหว่างประเภทนี้กับสองประเภทแรกที่กล่าวมา
คำตอบก็คือ อิสระในการดำเนินธุรกิจที่ ผู้ลงทุนยังมีธุรกิจของตนเอง และยังได้ชื่อของแบรนด์ หรือรูปแบบทางการตลาดบางอย่าง รวมถึงส่วนแบ่งทางการตลาดจากผู้ถือสิทธิ์ โดยยกตัวอย่าง บางย่านอาจจะมี ห้างร้านสำหรับการให้บริการบางสิ่งอยู่เป็นของตนเอง แต่ก็จะมี ร้านแบรนด์บางอย่างที่เข้ามาเปิดในร้านของตนเอง หรือเป็น ส่วนเล็กๆ อย่างเช่น ร้านสะดวกซื้อที่มีร้านขายยาผนวกอยู่ในร้าน
ข้อควรพิจารณาของ franchisor หรือผู้ถือสิทธิ์แฟรนไชส์คืออะไร ?
สำหรับคำถามที่พูดถึงข้อควรพิจารณาของ franchisor หรือผู้ถือสิทธิ์แฟรนไชส์คืออะไร ? สามารถแบ่งย่อยๆได้เป็นสามข้อดังนี้
นโยบายของผู้ถือสิทธิ์แฟรนไชส์คืออะไร ให้ความสำคัญกับผู้ลงทุนและลูกค้ามากน้อยเพียงใด
ในส่วนนี้มีความสำคัญอย่างมาก เพราะ หากผู้ถือสิทธิ์แฟรนไชส์ให้ความสำคัญทั้งในด้านแผนการตลาด การลดความเสี่ยง หรือการให้บริการที่ดี เมื่อผู้ลงทุนนั้นได้ตกลงในการดำเนินธุรกิจแล้วนั้น จะมีความมั่นคงและสร้างรูปแบบการบริการที่ดี ทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างดี ถือเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดก่อนจะลงทุนในแฟรนไชส์ใดๆ
การตลาดและการเติบโตทางเศรษฐกิจของเจ้าของแฟรนไชส์เป็นอย่างไรบ้าง
การทำธุรกิจแฟรนไชส์นั้นจะตั้งมั่นอยู่บนรูปแบบจากเจ้าของแฟรนไชส์ ดังนั้น การศึกษาแผนการตลาดหรือแนวโน้มการเติบโตของแฟรนไชส์จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพื่อลดความยาก และปัญหาหลังจากการลงทุน
3.ความน่าเชื่อถือและจำนวนสาขาของแฟรนไชส์
หากแฟรนไชส์ของผู้ถือสิทธิ์นั้นไม่มีความน่าเชื่อถือที่เพียงพอต่อผู้บริโภค การเติบโตของการทำธุรกิจก็จะดำเนินไปได้ยาก และยิ่งหากผู้ลงทุนจะต้องบุกเบิกทำการตลาดเพิ่มเติมก็ยิ่งเป็นการสร้างภาระ และอาจจะส่งผลให้เกิดความไม่มั่นคงในการบริหารธุรกิจได้
ข้อควรพิจารณาของ franchisee หรือผู้ที่ลงทุนแฟรนไชส์คืออะไร
และอีกคำถามสำคัญในมุมของผู้ลงทุน ก็จะเกิดคำถามว่าแล้ว ข้อควรพิจารณาของผู้ลงทุนแฟรนไชส์คืออะไร ทางผู้เขียนขอจำแนกเป็น 2 ข้อใหญ่ๆที่มีความสำคัญ
ข้อพิจารณาในการลงทุนแฟรนไชส์คืออะไร24wash
1.ต้นทุนในด้านต่างๆ (ทรัพย์, พื้นที่ในการเปิดกิจการ , บริบททางสังคม)
ในส่วนนี้นั้นเป็นส่วนแรกที่ต้องพิจารณาในมุมของผู้ลงทุน ว่าทรัพยากรที่ผู้ลงทุนมีในด้านต่างๆนั้น มีมากน้อยเท่าไหร่ และมีความเหมาะสมอย่างไรบ้างสำหรับ การเปิดร้านแฟรนไชส์ต่างๆ เพราะว่าหากทางผู้ลงทุนไม่ให้ความสำคัญในส่วนนี้ ในท้ายที่สุด การควบคุมทุนจะไม่สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงผลตอบแทนจากบริบททางสังคมนั้นๆ อาจจะไม่ดีเพราะ ไม่เข้าใจการตลาดในพื้นที่ของตนเอง
2.ประเภทของธุรกิจที่จะลงทุนแฟรนไชส์คืออะไร ซึ่งมีความเหมาะสมกับตนเอง
โดยพิจารณาจากประสบการณ์การทำธุรกิจ ไลฟ์สไตล์ เพราะสุดท้ายแล้ว หากผู้ลงทุนนั้นได้ลงเม็ดเงินไปกับแฟรนไชส์ใดๆแต่หาก วิธีคิดและข้อตกลงระหว่างผู้ลงทุนกับเจ้าของสิทธิ์ไม่ตรงกัน อาจจะเกิดความยากในการทำธุรกิจ รวมถึงเกิดปัญหารายทางอันเกิดจากหลากหลายปัญหาที่จะตามมา
ปัจจัยความสำเร็จของธุรกิจแฟรนไชส์ (Franchise) สิ่งที่ต้องศึกษา
ความเข้าใจในบริบททางสังคม และความต้องการของผู้บริโภคนั้นมีความสำคัญอย่างมากและถือเป็นปัจจัยความสำเร็จของธุรกิจแฟรนไชส์ เพราะว่าการวางแผนธุรกิจต่างๆนั้นมาจากเจ้าของแฟรนไชส์เรียบร้อยแล้ว แต่ รูปแบบที่เหมาะสมในการลงทุนแฟรนไชส์คืออะไร ? ยกตัวอย่าง หากในพื้นที่ของผู้ลงทุนเป็นสังคมเมือง มีการรีบเร่งในการทำงาน เดินทาง ทำธุระต่างๆ จนผู้คนอาจจะไม่มีเวลาในการซักผ้า การลงทุนกับแฟรนไชส์ ร้านสะดวกซัก ก็อาจจะตอบโจทย์ในพื้นที่ของผู้ลงทุน
หากในพื้นที่ของผู้ลงทุนอาจจะอยู่ติดกับโรงพยาบาล สถานราชการ หรือ สถานที่สาธารณะ ที่ผู้คนนั้นมีความรีบเร่งเข้ามาทำธุระ การเปิดแฟรนไชส์เกี่ยวกับ อาหารต่างๆ ก็อาจจะตอบโจทย์
โดยในเบื้องต้นเป็นการยกตัวอย่างที่จะขยายภาพให้เห็นได้ว่า ปัจจัยความสำเร็จของแฟรนไชส์คืออะไร
ซึ่งก็ต้องพิจารณาความต้องการให้ตรงกับ ลักษณะของธุรกิจแฟรนไชส์ นั่นเอง
สัญญาและค่าธรรมเนียมของแฟรนไชส์
เมื่อการเปิดแฟรนไชส์คือการซื้อขาย สิทธิ์ในการทำธุรกิจจากเจ้าของแบรนด์แฟรนไชส์จึงเกิดคำถามที่ว่า สัญญาและค่าธรรมเนียบของแฟรนไชส์คืออะไร ทางผู้เขียนได้สรุปเพื่อความสะดวกในการอ่านด้านล่างนี้
ส่วนของสัญญา
ในการทำสัญญานั้น เป็นสิ่งแรกๆที่จะมีข้อตกลงระหว่างกัน ระหว่างผู้เป็นเจ้าของสิทธิ์และผู้ลงทุน โดยเพื่อเป็นการแสดงความจริงใจและยกให้เห็นถึงสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญระหว่างกันเพื่อสร้างผลประโยชน์สูงสุดร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นในด้านของ ค่าใช้จ่ายเบื้องต้น ผู้ลงทุนจะได้รับสิ่งใดบ้าง และ กฏระเบียบร่วมที่จะต้องรักษาไว้
ส่วนของค่าธรรมเนียม
ในการเปิดแฟรนไชส์อาจจะมีบางอย่างที่เป็นข้อตกลงเบื้องต้นที่ทางผู้ลงทุนจะได้รับ เช่น เมื่อจ่ายเงินลงทุน จะได้รับ เครื่องมือในการทำธุรกิจ การก่อสร้าง วางระบบตัวร้านให้กับผู้ลงทุน
แต่ก็จะมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม อาจจะเก็บเป็นไตรมาสหรือเป็นรายปีตามข้อตกลง เพื่อนำเงินไปสร้างสิ่งที่จะนำกลับมาช่วยเหลือและพัฒนาธุรกิจให้กับสมาชิกผู้ลงทุนแฟรนไชส์ได้
สรุป
ในท้ายที่สุดของการทำธุรกิจนั้นก็มีหลากหลายรูปแบบ แต่สำหรับการทำธุรกิจอีกรูปแบบหนึ่งที่เรียกว่าแฟรนไชส์นั้น ถูกสร้างมาเพื่อเป็นการสร้างการเติบโตและผลประโยชน์ร่วมจากบริษัทที่มีความมั่นคงทางการตลาดและอยากขยายสินค้าและบริการให้ออกไปสู่สายตาผู้คนมากขึ้น ซึ่งก็จะมีการขายสิทธิ์ให้กับผู้ที่สนใจอยากทำธุรกิจ ซึ่งโดยรวมนั้นมีความน่าสนใจ ยิ่งในปี 2024 นี้เองที่วิถีชีวิตและไลฟ์สไตล์ของผู้คนได้เปลี่ยนแปลงไป ทางผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ มีความสนใจในการลงทุน รวมถึงผู้ที่อาจจะอยากทราบว่า แฟรนไชส์คืออะไร
