Unplugged coding เรียน coding โดยไม่ต้องใช้คอม ไม่กลัวสมาธิสั้น
การเรียน coding หลายท่านเข้าใจว่าการเรียนต้องใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์หรือแท็บเล็ตในการเรียนเท่านั้น เรามาทำความรู้จักกับการเรียนอีกรูปแบบ เรียกว่า Unplugged coding เรียน coding โดยไม่ต้องใช้คอมหรืออุปกรณ์สารสนเทศ ไม่ส่งผลเสียต่อพัฒนาการของเด็ก ไม่กลัวเด็กสมาธิสั้น
Unplugged coding คืออะไร
Unplugged coding คือ การเรียน coding แบบออฟไลน์ ไม่จำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์สารสนเทศ ใช้เพียงกระดาษดินสอหรือปากกาก็สามารถเรียนได้
Unplugged coding มีแนวคิดการเรียน coding ที่มีความเป็นนามธรรม ให้เด็กๆ ได้เห็นภาพมากขึ้น โดยการเรียน Unplugged coding ไม่ใช่การจัดการเรียนการสอนเพียงให้เด็กท่องจำ แต่เป็นการเรียนรู้สร้างความเข้าใจเนื้อหาผ่านการปฏิบัติจริง ควบคู่กับการพัฒนาทักษะกระบวนการคิด ตั้งคำถาม วิเคราะห์ข้อมูลและแก้ปัญหา
Unplugged coding มีรูปแบบการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับรูปแบบ STEM เน้นการบูรณาการความรู้ 4 สาขาวิชาเข้าด้วยกัน โดย STEM ย่อมาจาก วิทยาศาสตร์ (Science) เทคโนโลยี (Technology) วิศวกรรมศาสตร์ (Engineering) และ คณิตศาสตร์ (Mathematics) นั่นเอง
ประโยชน์ของการเรียนแบบ Unplugged coding
การเรียนแบบ Unplugged coding เป็นการปูพื้นฐานและสร้างทัศนคติที่ดีต่อการเรียนวิชาต่าง ๆ เช่น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ให้กับเด็ก ๆ Unplugged coding เน้นการทำกิจกรรม นำเกมมาประยุกต์ในกิจกรรมการเรียนให้เด็ก ๆ เกิดความสนใจและเข้าใจหลักการ coding พื้นฐานมากขึ้น
อีกทั้งประโยชน์การเรียนแบบ Unplugged coding ยังช่วยฝึกสมาธิ ความอดทนของเด็ก ๆ อีกด้วย ให้เด็ก ๆ จดจ่อกับสิ่งที่ทำอยู่ตรงหน้าได้มากขึ้น การทำกิจกรรม Unplugged coding มุ่งเน้นความสนุกสนาน ลดความน่าเบื่อในการเรียนรู้ เด็ก ๆ ได้มีความเพลิดเพลินกับการเรียนรู้ ลดสิ่งรบกวนต่าง ๆ จากอุปกรณ์ดิจิทัลได้เป็นอย่างดี
เสริมสร้างทักษะแนวคิดเชิงคำนวณ (Computational thinking) ให้กับเด็ก
การเรียน Unplugged coding เป็นการเสริมสร้างทักษะแนวคิดเชิงคำนวณ (Computational thinking) ให้กับเด็ก
แนวคิดเชิงคำนวณ คือ กระบวนการวิเคราะห์ปัญหา เพื่อให้ได้แนวทางวิธีแก้ปัญหาอย่างมีขั้นตอนเป็นระบบ วิเคราะห์อย่างมีตรรกะและสร้างสรรค์ สามารถนำไปปฏิบัติได้โดยบุคคลและคอมพิวเตอร์
ซึ่งการเรียนรู้ Unplugged coding มีการเรียนการสอนในรูปแบบกิจกรรมการเล่นเกม มีอุปกรณ์อื่น เช่น ไพ่ เกม กระดาน ของใช้รอบตัว เป็นต้น สำหรับเป็นสื่อในการสร้างความเข้าใจหลักการพื้นฐานของคอมพิวเตอร์และตรรกศาสตร์ แทนการใช้คอมพิวเตอร์
เรียนรู้การเรียน coding โดยไม่เสี่ยงต่อโรคสมาธิสั้น
ปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มีอิทธิพลเป็นอย่างมากต่อบุคคลทุกเพศทุกช่วงวัย ไม่ว่าจะทำงานหรือเรียนหรือแม้กระทั่งการใช้ชีวิตประจำวันทั่วไป ที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบาย ความเพลิดเพลิน ความบันเทิงในชีวิตประจำวัน แต่ในขณะเดียวกัน แสงจากหน้าจอ การใช้คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน ส่งผลเสียให้แก่ผู้ใช้งานเป็นอย่างมาก
นักจิตวิทยาอังกฤษกล่าวเตือนว่า จอคอมพิวเตอร์เป็นอันตรายกับสมองของเด็กเล็ก ดร.อริก ซิกแมน ระบุว่า "ยังไม่ควรให้เด็กที่อายุยังไม่ถึง 9 ขวบ เล่นคอมพิวเตอร์ และเปิดเผยว่า แม้ว่าเด็กที่อายุ 18 แล้ว ตามกฎหมายจะถือว่าเป็นผู้ใหญ่ก็ตาม แต่อันที่จริงแล้วสมองยังไม่พัฒนาเต็มที่ จนกว่าอายุจะ 24 ปีครึ่ง เพราะเหตุนั้น ที่เรารู้มามันอาจจะเป็นผลเสีย ด้วยเหตุที่สมองยังไม่คงที่"
นอกจากนี้ อ.พญ.จิราภรณ์ อรุณากูร กุมารแพทย์เวชศาสตร์วัยรุ่น คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้กล่าวว่าการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากเกินพอดี มีผลเสียหลายประการ ไม่เพียงแค่เด็ก ๆ เท่านั้น แต่ในผู้ใหญ่เองก็เช่นกัน
เพราะผลเสียจากแสงหน้าจอส่งผลเสียต่อสายตาโดยตรง อาจทำให้กล้ามเนื้อตาทำงานหนัก ตาแห้งหรือจอประสาทตาผิดปกติ อีกทั้งการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์นาน ๆ ขยับร่างกายน้อย หรือใช้ร่างกายเฉพาะส่วนซ้ำ ๆ เดิม ๆ เป็นเวลานา ส่งผลเสียต่อกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ นั้น เช่น ปวดคอ บ่า ไหล่ หลัง แขน นิ้วล็อค และกล้ามเนื้อมัดเล็กที่ยังพัฒนาไม่เต็มที่ในเด็ก ๆ อีกด้วย
ทั้งยังส่งผลเสียต่อการทำงานของสมอง ทำให้สมาธิสั้นลง ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานและการเรียนรู้ และยังทำให้ขาดการปฏิสัมพันธ์ต่อคนรอบข้าง ส่งผลเสียด้านอารมณ์ เสพติดความสุข มีความบกพร่องต่อการควบคุมและจัดการอารมณ์ เกิดปัญหาการนอนไม่หลับ พักผ่อนไม่เพียงพอ ก่อให้เกิดอาการของโรคซึมเศร้าได้ในที่สุด
การเรียน coding รูปแบบ Unplugged coding เป็นอีกหนึ่งการเรียนการสอน ที่ช่วยเสริมสร้างทักษะกระบวนการคิด พัฒนาสมองให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสมกับช่วงวัย โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ ส่งผลดีต่อเด็กเป็นอย่างมาก
จุดเริ่มต้นการเรียน coding ของเด็ก
การเรียน Programming สำหรับเด็กนั้นค่อนข้างมีความเข้าใจยาก หากให้เด็ก ๆ มาท่องจำไวยากรณ์ภาษาคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ จะทำให้เกิดความรู้สึกว่าสิ่งเหล่านั้นเป็น Abstract เข้าใจได้ยาก มองภาพไม่ออก เพราะเด็ก ๆ ยังไม่มีความเข้าใจตรรกะแนวคิดของการเรียน Programming หรือการ Coding แน่นอน
ดังนั้นการเริ่มเรียน Coding รูปแบบ Unplugged coding ถือเป็นจุดเริ่มต้นให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ฝึกพื้นฐานและทักษะต่างๆของการเรียน Coding นำไปสู่การต่อยอดการเรียน Programming
การเรียน Unplugged coding จะช่วยให้เด็ก ๆ เห็นภาพและเข้าใจสิ่งเหล่านั้นมากขึ้น เพราะมีการเรียนการสอนที่ผสมผสานตรรกศาสตร์เข้ากับการเรียนรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เน้นเรียนรู้ผ่านการทำกิจกรรม ลงมือปฏิบัติจริง ให้เด็ก ๆ เกิดความสนใจ สนุกสนาน เข้าใจมากขึ้น พร้อมทั้งสร้างเสริมพัฒนาการทั้งทางสมองและร่างกายไปพร้อมกันอีกด้วย
